งูผมปากบวมแดงและมีน้ำลายฟูออกมา ต้องใช้ยาอะไรหรอครับปริมาณเท่าไหร่ระแวกบ้านผมไม่มีที่รับรักษาสัตว์เอ็กโซติกอ่ะครับ

อาการและโรคปากอักเสบ หรือ stomatitis ในงูมีหลายระดับครับ ในช่วงแรกจะเกิดแค่แดงในช่องปากและเหงือก ต่อมาจะเริ่มบวมน้ำลายไหลมาก และเมื่อเปิดปากจะแดงและอาจพบแผลหลุมตามเหงือกและฟันหลุดได้ ในหลายรายจะพบน้ำมูกและช่องเพดานปากที่โหว่ มีน้ำมูกอย่างมาก ตั้งแต่การพบในระยะนี้ต้องทำการเอกซเรย์หรือฟันเสียงปอดด้วยเครื่องมือเพิ่มครับ เพื่อประเมินว่ามีการติดต่อและอักเสบไปถึงปอดหรือยัง เพราะในงูบางชนิด เช่น หลามบอล หรือกลุ่มงูเหลือมหลามทั้งหลายจะไวต่อการเกิดโรคกว่างูชนิดอื่น ๆ แต่หากเกิดในงูชนิดอื่นๆ ถ้าเกิดก็มักจะรุนแรงไปเลยครับ

ในเกรดต่อมาก็จะรุนแรงขึ้น ทั้งปากเปือ่ย ฟันหลุดและขากรรไกรและกะโหลกอักเสบ เกิดเป็นฝีหนองได้ แต่ติดเชื้อเข้ากระดูกและเนื้อเยื่อข้างเคียง มักพบร่วมกับการติดเชื้อในกระแสเลือดไปแล้ว อันนี้จะรักษานานกว่าเดิม

ในกรณีที่ถาม การเกิดมักจะยังเป็นเกำำรดเริ่มต้นในระยะที่สอง แต่แนะนำว่าให้ตรวจให้ละเอียด เพราะแก้ไขได้ครับ

ในกรณีเบื้องต้นต้องจัดการความต้องการพื้นฐานให้ได้เสียก่อน ในรายที่ป่วยน้อยๆก็สามารถหายได้ เช่น แสงแดดหรือหลอดยูวีถ้าแสงแดดไม่เพียงพอ ความชื้นอยู่ในระดับเหมาะสม ซึ่งตอนนี้หน้าฝนก็มากเกินไประวังจะเป็นปอดติดเชื้อ ที่สำคัญอีกประการคืออุณหภูมิที่เหมาะสมของงูชนิดนั้น (POTZ) หากไม่เหมาะสมทั้งแสงยูวีและอุณหภูมิมักจะทำให้ป่วยง่าย กิจกรรมลดลง กินอาหารลดลง ต่อมาคือช่วงเวลากลางวันและกลางคืนต้องไม่รบกวน ต้องพอดี ต่อมาคืออาหาร อันนี้สำคัญไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับป้อนอะไรและส่งผลอะไรต่อสุขภาพ

เบื้องต้นจัดแสงแดดและอุณหภูมิให้ได้ครับ อาการเริ่มต้นจะดีขึ้น ส่วนปากลองเปิดดู หากเป็นเพียงเล็กน้อยหรือเป็นแผล ถ้าการจัดการแดดและอุณหภูมิดีก็จะหาย แต่หากเป็นมากแล้วยาป้ายปากอย่างเดียวไม่พอ ควรได้รับการฉีดจะเหมาะกว่าการกินในสัตว์เลื้อยคลานเพราะเมตาบอลิสมต่ำ การดูดซึมยาจะต่ำกว่าการให้ทางระบบ และหายได้ไวกว่า ขอให้หายไวไวครับ โรคสัตว์เลื้อยคลานมีข้อดีคือกำเริบช้ามีโอกาสหายได้ แต่นั่นทำให้คนชะล่าใจ และเมื่อจะรักษาก็มักจะหนักแล้วและใช้เวลาในการรักษานานยิ่งขึ้นครับ