อังคณา

อังคณา

ผู้เยี่ยมชม

  กระรอกถ่ายเหลว (338 อ่าน)

14 พ.ค. 2566 18:29

กระรอกอายุ 45 วัน พาออกไปข้างนอก กลับมาถ่ายเหลว ต้องทำยังไงคะ

อังคณา

อังคณา

ผู้เยี่ยมชม

หมอเอกโซติก ขวัญคำ

หมอเอกโซติก ขวัญคำ

ผู้เยี่ยมชม

16 พ.ค. 2566 08:28 #1

จากประวัตินี้จะช่วยได้เยอะครับ อายุยังน้อยจะติดเชื้อได้ง่ายและเกิดอาการรุนแรง เช่น บิด อันนี้จะพบได้บ่อยแต่ในอายุ 45 วันจะเริ่มปลอดภัยและสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี จะแตกต่างจากช่วงอายุก่อนหย่านม จะเห็นถ่ายเหลวแบบมีมูกได้ใน 2-3 วันแล้วจะดีึ้น เช่นเดียวกันกับตัวที่ป่วยหนัก จะรุนแรงและอาจเสียชีวิตในระยะเวลาเดียวกัน และเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนก็จะทำใหเกิดความรุนแรงมากขึ้นได้ เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้รุนแรงมากขึ้นในกระรอก เช่น ครอสตริเดียม อันนี้อันตรายเพราะมักมาจากอาหารปนเปื้อนเชื้อและพิษของมันทำให้เกิดการถ่ายเหลวรุนแรงและตายได้ บางรายแทบไม่แสดงอาการให้เห็น เป็นแบบเฉียบพลัน และเชื้อที่พบได้บ่อยที่สุดในอาหารปนเปื้อนคือ อี โคไล สิ่งที่แตกต่างกับบิดคือถ่ายเหลวเป็นน้ำสีฟางข้าว (แต่ในรายครอสตริเดียมจะแยกยากเพราะคล้ายกันมาก) อย่างไรก็ตาม เกิดร่วมกันได้ เชื้ออื่นๆก็มีครับแต่ไม่พบมากเท่ากับเชื้อเหล่านั้นในอายุช่วงนี้ หากพบแต่เนิ่นๆถ้าเป็นบิดก็กังวลใจน้อย อี โคไล มักมีข้อจำกัดของโรค ถ่ายไปแล้วอาการจะดีขึ้น แต่หากเป็นครอสตริเดียมจะเสี่ยงที่สุด มีโอกาสตายได้ทันทีและในรายที่รอด จะพบอาการต่อเนื่องหลายวันและผอมแห้งลงในรายที่เรื้อรัง

เชื้อบิดติดมาตั้งแต่แรกครับ จากแม่หรือปนเปื้อนมาจากตัวอื่นในฝูง ส่วนชื้ออื่นๆมักแทรกซ้อนมาภายหลังแต่รุนแรง เพราะมีอยู่แล้วในทางเดินอาหาร และยังปนเปื้อนมากับอาหาร เป็นอาหารเป็นพิษ การออกไปข้างนอกจึงมีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อเหล่านี้ง่ายขึ้น

อีกประการที่มองข้ามไม่ได้คือความเครียด การพาออกไปข้างนอกและมีความเครียดจะพบอาการถ่ายเหลวได้แต่จะเกิดแบบชั่วคราว ประเด็นนี้จึงไม่น่ากังวล แต่ให้ระวังการกิน

การรักษา เชื้อบิดและอีโคไลมักจะดีขึ้นเองในไม่กี่วัน เพราะเป็นข้อจำกัดของเชื้อเองและขึ้นกับภูมิคุ้มกันร่างกาย ควรนำไปตรวจเชื้อบิดเพื่อทำการรักษาให้อาการดีขึ้นเพราะส่วนใหญ่จะกลายเป็นพาหะนำโรคต่อไปได้ แม้ว่ากระรอกจะไม่แสดงอาการ แต่จะมีพวกเชื้อบิดในตับที่ต้องรักษาต่อและระยะเวลานาน หมออาจจะพบอาการของโรคตับและบำรุงรักษาต่อได้ ส่วนการติดเชื้อแบคทีเรียครอสตริเดียมในรายที่รุนแรงมักไม่รอด ถ้ารอดก็นำไปประเมินการขาดน้ำและอิเลกโทรไลต์เพราะทำให้เสียชีวิตในภายหลังได้ หรือเจ้าของป้อนน้ำเกลือแร่เบื้องต้นก่อนได้ อย่าให้ขาด และพาไปหาหมอครับ มันจะไปเกี่ยวข้องกับการรักษาและป้องกันต่อ บางรายอาจมีอาการผอมแห้งและน้ำหนักลดลงมาก ในช่วงอายุน้อยจะทรุดเร็วกว่าปกติ ยาและอาหารในช่วงฟื้นฟูจึงจำเป็น และกำจัดเชื้อในสิ่งแวดล้อม เช่นการใช้แอมโมเนียหรือพวกโซเดียมไฮโปคลอไรด์ทำความสะอาดพื้น จะช่วยกำจัดเชื้อต่างๆได้ดีร่วมกัน ขอให้หายไวไวครับ

หมอเอกโซติก ขวัญคำ

หมอเอกโซติก ขวัญคำ

ผู้เยี่ยมชม

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้