กวางที่เลี้ยงชูก้า
ชูก้าไกลเดอร์หายใจหอบ ชัก หาหมอแล้วน้องใช้ขาหลังไม่มีแรง มีวิธีการดูแลอย่างไรบ้างคะ (3179 อ่าน)
14 ก.พ. 2566 16:33
ชูก้ามีการชักเกร็งตัว พาไปโรงพยาบาลแล้วหมอบอกว่าเป็นอาการฮีทสโตรก อากาศร้อนเกินน้องระบายความร้อนไม่ได้ค่ะ
รักษาเบื้องต้นดูอาการจนคงที่ น้องสามารถกลับบ้านได้แต่ขาหลังลาก ระบบขับถ่ายทำงานได้ปกติ แต่มีการถ่ายไปทางเหลวค่ะ
อยากให้น้องใช้ขาหลังได้เหมือนเดิมค่ะ ต้องมีการจัดอาหารการกินการดูแล อาหารเสริม อย่างไรบ้างคะ ขอบคุณค่ะ
กวางที่เลี้ยงชูก้า
ผู้เยี่ยมชม
ดร.แรนดอล์ฟ
14 ก.พ. 2566 20:16 #1
อาการตามที่แจ้งมีความน่าสงสัยในแนวทางเดียวกันครับ เพราะอาการหอบหรือหายใจเร็วและลึกเป็นการแสดงออกเพื่อปรับตัวในหลายเหตุผล ได้แก่ ระบายความร้อน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีขนเฟอร์และไม่มีต่อมเหงื่อ จะใช้การหายใจและอาศัยในที่เย็นเป็นหลัก จึงพบฮีทสโตรกได้เป็นประจำ และพบมากในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล จึงพบบ่อยมากช่วงเมษาไปถึงพฤษภา ในช่วงนั้นสัตว์ที่หายมักจะเป็นโรคทางเดินหายใจตามมาเพราะร่างกายอ่อนแอ สาเหตุของอาการหอบต่อมาคือความต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้น และต้องการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์จากภาวะร่างกายมีการสะสมมากเกินไปเรียกว่า อะซิดโดซิส หรือร่างกายมีภาวะไข้ มีการอักเสบในระยะแรกที่มีการใช้เม็ดเลือดขาวมาต่อต้านเชื้อ ก็พบอาการหอบได้
ในช่วงที่เกิดภาวะลมร้อนนั้น ซึ่งเกิดจากร่างกายไม่สามารถรักษาสมดุลความร้อนด้วยกลไกทางสรรวิทยาของตนเองได้แล้ว ร่างกายจะคุมความร้อนไม่ค่อยอยู่ และอุณหภูมิร่างกายจึงมักจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ายังอยู่ในอากาศร้อนหรือแสงแดด ร่างกายจะใช้พลังงานอย่างมากและพบอาการอ่อนเพลีย และยังมีผลทำลายอวัยวะสำคัญในร่างกาย โดนเฉพาะอวัยวะภายใน เมื่อทำการตรวจเลือด (ซึ่งในชูการ์ทำได้ยากเพราะไม่สามารถให้เลือดเพียงพอ) จะพบค่าเม็ดเลือดขาวสูงขึ้นได้ในสัตว์ชนิดอื่นๆ เพราะเกิดการอักเสบ หากมีผลต่อสมองก็จะพบอาการทางระบบประสาท สับสน เดินวน ชัก และเสียชีวิตได้ แม้บางตัวที่ทำการรักษาให้ฟื้นแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องเฝ้าดูอาการใกล้ชิด เพราะผลข้างเคียงจากความร้อนหากเกิดขึ้นระยะเวลานานจะหายช้าเพราะอาจเกิดความเสื่อมของอวัยวะบางอวัยวะไปแล้ว รวมทั้งขาหลังอ่อนแรง หรืออาการทางระบบประสาทไปจนถึงตับและไต ต้องระวังต่อครับ แต่หากอาการต่างๆค่อยๆดีขึ้น ตามที่แจ้งเช่นการขับถ่ายแม้ว่าจะถ่ายเหลวเป็นสัญญาณที่ไม่ดี แต่ก็ดีกว่าไม่ขับถ่ายเลยเมื่อเทียบกับความรุนแรงที่อาจพบได้ นั่นหมายถึงตอบสนองและเกิดการฟื้นตัว ขาจึงเป็นเรื่องเล็กและใช้เวลาในการกายภาพบำบัดได้
อย่างไรก็ตาม อาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น การถูกวิ่งไล่ การหนี และความเครียด จะส่งผลให้เกิดอาการใกล้เคียงกัน เกิดการเสื่อมของกล้ามเนื้อ ไต และมีอาการทางประสาท มีอาการหอบเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้อาการชักลำพังถ้าไม่ใช้โรคลมร้อนมักจะเกิดจากการขาดน้ำตาลหรือน้ำตาลต่ำได้ ทั้งอ่อนแรงและชักได้ และการขาดแร่ธาตุพวกแคลเวียมแต่มักจะพบในแม่ช่วงให้นมและลูกชูการ์มากกว่า
ลองทดสอบการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โดยการหนีบที่อุ้งตีน ถ้ายังตอบสนองโดยการดึงขาหนี แดงว่าระบบประสาทยังคงทำงาน จะพอมีความหวังและลุ้นกันที่การกายภาพบำบัดต่อไปครับ
อาหารในระยะนี้ให้เป็นปกติ เน้นความสมดุลของอาหาร เพิ่มระดับโปรตีนเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ซึ่งเป็นแนวทางของการบำบัดสำหรับฟื้นฟู แต่ยังต้องมีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตและไขมันในร้อยละ 70-80 เป็นส่วนใหญ่ หรือเลือกอาหารจำเพาะสำหรับชูการ์ในช่วงฟื้นฟูเช่น HPW ของ Exotic Nutrition แบบผงละลายน้ำป้อนหรือรูปเจลป้อนง่ายได้ครับ แล้วทำการกายภาพบำบัดช่วย ขอให้หายไวไวนะครับ
ดร.แรนดอล์ฟ
ผู้เยี่ยมชม
ลูลู่
15 ก.พ. 2566 11:13 #2
การทำกายภาพบำบัดขาหลังชูการ์ต้องทำยังไงบ้างคะ
ลูลู่
ผู้เยี่ยมชม
ดร.แรนดอล์ฟ
15 ก.พ. 2566 20:50 #3
ทดสอบระบบประสาทก่อนนะครับว่ายังตอบสนองหรือไม่ กายภาพระยะแรกเป็นการลงมือของเราเอง โดยการขยับขาของพวกเขาเอง ทั้งท่ายืดเหยียดและขยับขึ้นลง เป็นช่วงหรือเป็นยก เพื่อให้ยังมีกล้ามเนื้อและการฟื้นฟูของระบบประสาท ในกรณีที่ไม่เป็นเกี่ยวกับระบบประสาทต้องแก้ไขสาเหตุเบื้องต้นเสียก่อนร่วมด้วย และออกกำลังขาต่อเนื่อง
ดร.แรนดอล์ฟ
ผู้เยี่ยมชม
ลูลู่
16 ก.พ. 2566 17:50 #4
ปัจจุบันน้องมีอาการหายใจแรงเมื่อไปจับหรือป้อนยาน้อง ยาที่น้องกินมียาเกี่ยวกับประสาท เกลือแร่ แคลเซียมค่ะ ในตรงนี้เรากลัวเรื่องอาหารการกินค่ะ น้องพยายามยกหัวขึ้นมากินนมที่เราป้อนค่ะ เวลาเดินน้องใช้ขาหน้าคลานค่ะ แต่ขาหลังลากค่ะ มีอาการเหมือนน้องพยายามพยุงตัวเองให้เดินในกรงค่ะ แต่ที่ก้นและหน้าท้องน้องจะเสียดสีกับแผ่นรองฉี่ตลอดค่ะ
ลูลู่
ผู้เยี่ยมชม
ณิขาภัทร
1 พ.ย. 2566 22:41 #5
น้องมีอาการหายใจเร็ว ทานอาหารไม่ได้ กลืนแล้วเหมือนกับจะกลืนไม่ลงค่ะน้องเป็นอะไรค่ะ
ณิขาภัทร
ผู้เยี่ยมชม
Dr. Randolph
5 พ.ย. 2566 20:31 #6
อาการหายใจเร็วมีสองแบบคือหายใจเร็วแต่ตื้น มักจะเป็นจากปอดอักเสบ หรือมีการขยายใหญ่ของอวัยวะในช่องท้องไปเบียดพื้นที่ส่วนหายใจ เช่น ท้องขยาย เนื้องอก มดลูกขยาย เป็นต้น และยังเกิดจากความตื่นเต้น บาดเจ็บ และหายใจลำบาก และการกินอาหารไม่ได้จากการกลืนไม่ลงหรือจะมีอาการหายใจติดขัดเมื่อต้องกินร่วมกับหายใจ เป็นไปได้ทั้งการเกิดปอดอักเสบ และการขยายใหญ่ของกระเพาะอาหารและจะเกิดอาการอาเจียน ควรนำไปตรวจและแนะนำให้ทำการเอกซเรย์ประเมินช่วย เพราะทั้งโรคปอดและทางเดินอาหารสามารถดูไดจากฟิล์ม หรือจากอาการอื่นๆร่วม เช่น หายใจลำบาก อ่อนเพลีย การขับถ่าย น้ำหนักที่ลดลงหรือมวลกาย การขยายของช่องท้อง หรือการบาดเจ็บที่พบจากสาเหตุอื่นๆ เช่น กระดูกหัก ปวดช่องท้อง เป็นต้น
Dr. Randolph
ผู้เยี่ยมชม