33 จำนวนผู้เข้าชม |
อันตรายของ PM 2.5 ในสัตว์เลี้ยง
โดย ผศ.น.สพ.ดร. สมโภชน์ วีระกุล (อ.แก้ว)
เรากล่าวกันมาเยอะมาฝุ่นละเอียดที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางต่ำหรือเท่ากับ 2.5 ไมครอน มีความร้ายกาจ เพราะเล็กขนาดเข้าสู่หลอดลม ถุงลม และในที่สุดเข้าสู่กระแสเลือดได้ แต่ความร้ายกาจนั้นก็ยังถูกศึกษาและค้นพบมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะไม่ลงลึกในสัตว์ชนิดใดเป็นพิเศษเพราะเคยเล่ามาแล้ว แต่จะให้เห็นภาพความร้ายกาจที่อาจเกิดได้กับสัตว์ทุกชนิดเช่นกัน
พบว่า PM 2.5 หรือฝุ่นเหล่านี้สามารถดูดซับสารต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตราย ได้แก่ โลหะหนัก แก๊สพิษ ไฮโดรคาร์บอน ไวรัส แบคทีเรียขนาดเล็ก สารเคมี เป็นต้น ไปด้วย นอกจากฝุ่นเองที่ไปทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาอักเสบ จึงเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษและติดเชื้อไปด้วย
การศึกษาในปัจจุบันพบว่าฝุ่นละเอียดนี้จะไปกระตุ้นการอักเสบได้หลากหลายกลไก แต่ที่เรามักจะเข้าใจได้ง่ายกลไกหนึ่ง คือการเกิด อาการแพ้แบบ hypersensitivity type I จึงพบการกระตุ้นและการทำงานของมาสก์เซลล์ (mast cell) อีโอซิโนฟิล (eosinophil) ทีเซลล์ (T cell) และอาจเกิดภาวะตอบสนองของการอักเสบทั้งระบบได้ และมากเกินจริง (hyperresponsiveness) จึงไม่ใช่แค่ผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และหัวใจและการไหลเวียนโลหิตเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทั้งร่างกาย และทุกระบบ ในมนุษย์จึงพบอัตราการป่วยและตายมาก โดยพบรายงานของการตายในผู้ป่วยในภาวะหอบหืดเพิ่มขึ้น โดยมีความสัมพันธ์กับการพบปัญหามลภาวะนี้ และพบรายงานการเสียชีวิตเนื่องจากฝุ่นขนาดเล็กนี้มากกว่า 2 ล้านคนต่อปีทั่วโลก (The United Nations Environment Program in 2012)
ในสัตว์มีความเป็นไปได้ที่กลไกเดียวกันจะเกิดขึ้น เมื่อสัตว์ได้รับฝุ่นที่ก่อให้เกิดปัญหาด้วยตัวมันเองแล้ว ยังนำพาสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคที่ดูดซับไว้ไปสู่ระบบทางเดินหายใจ และแพร่สู่กระแสเลือดไปยังทุกระบบในร่างกาย จึงพบอัตราการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่อาการแพ้ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหอบหืดในสัตว์ จนถึงติดเชื้อในระยะที่ PM 2.5 รุนแรง และเป็นไปได้สูงเช่นเดียวกับมนุษย์ ที่พบว่ามลภาวะนี้แพร่ไปยังทารกในครรภ์ ทำให้เด็กเสี่ยงต่อภาวะหอบหืดเมื่อคลอด
ทำให้เกิดการอักเสบแบบไม่จำเพาะได้อีกด้วย และเกิดโรคระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน เช่น หลอดลมอักเสบ โดยอาจทำให้โครงสร้างของปอดเสียหายได้ จะพบการเพิ่มขึ้นของอัลวีโอลาร์มาโครเฟจ ที่ช่วยป้องกันและกำจัดสิ่งแปลกปลอมเมื่อเข้ามาสู่ระบบทางเดินหายใจ และไซโคไคน์เกี่ยวกับการอักเสบ พบรายงานในหนูไมซ์ที่ทำให้เกิดหลอดลมอักเสบโดยพบเซลล์อักเสบเหล่านี้และพบการขับเสมหะมากขึ้น และยังพบอีโอซิโรฟิลและเซลล์อักเสบที่เกี่ยวกับภาวะหอบหืดเช่นเดียวกับในมนุษย์
และที่น่าห่วงเพิ่มขึ้นคือการเกิดขึ้นของสารอนุมูลอิสระอย่างมากจาก PM 2.5 ที่มีผลไปกระตุ้นการอักเสบอีกทาง ตัวนี้กระตุ้นการอักเสบมากขึ้น เพิ่มการสร้างเสมหะและขับออกมา พบมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของยีนส์ของเซลล์อักเสบ นอกจากนี้ยังพบว่าการพบฝุ่นละเอียดมีผลต่อการดื้อคอร์คิโคสเตียรอยด์ ทำให้การใช้ยาต้านการอักเสบและภูมิแพ้นี้ยากและในขนาดที่สูงขึ้น
สัตว์เลี้ยงมีหลายอาการที่ไปพบสัตวแพทย์ เข้าข่ายมีความสัมพันธ์กับ PM 2.5 โดยอาการที่พบได้บ่อย จะพบอาการจาม ไอ จนถึงหายใจลำบากได้ บางรายพบอาการไข้ มีเสมหะมากทั้งน้ำมูกน้ำตา และผิวหนังเกิดอาการแพ้เป็นผื่น จำนวนหนึ่งพบปอดอักเสบและประเมินจากอาการและการเอกซเรย์
มลภาวะนี้จะยังไม่ไปไหน และจะวนเวียนกลับมาทุกๆ ปี ให้ผู้เลี้ยงและสัตวแพทย์ป้องกันและรักษา และไม่ควรมองข้ามเพราะมีความรุนแรง ก่ออาการเรื้อรัง และถึงเสียชีวิตได้